ความแตกต่างระหว่าง QR Code และ AR Code คืออะไร?

เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด | 18/06/2024 | Twitter Facebook Linkedin Email Reddit

QR Codes ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในช่วงต้นทศวรรษ 2000 และได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลกตั้งแต่นั้นมา พวกเขาถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน การเข้าถึงข้อมูล และการสแกนเพื่อเข้าตึกหรืออีเวนต์ต่าง ๆ

พัฒนาการของ QR Code

ในปี 1999 วิศวกร Masahiro Hara จากบริษัท Denso Wave ของญี่ปุ่นได้ประดิษฐ์ QR Code ขึ้นมา Denso Wave ซึ่งผลิตอุปกรณ์อุตสาหกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้พัฒนาระบบการถ่ายโอนข้อมูลแสงนี้เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและทำให้สามารถเข้าถึงได้กับทุกคนผ่านใบอนุญาตในขณะที่ยังคงสงวนสิทธิ์สิทธิบัตรแบบเปิด

เมื่อ QR Code เริ่มได้รับความนิยมในญี่ปุ่น โทรศัพท์มือถือญี่ปุ่นหลายรุ่นในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ถูกติดตั้งด้วยความสามารถในการสแกน QR Code ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียก็เริ่มตามเทรนด์นี้

QR Code กลายเป็นที่มองเห็นได้มากขึ้นในยุโรปและสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาและจากนั้นก็ได้รับความนิยมแพร่หลายด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชันการสแกนบาร์โค้ดจากบุคคลที่สาม

วันนี้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายรายได้รวมความสามารถในการอ่าน QR Code เอาไว้ในระบบปฏิบัติการของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น Apple เพิ่งเพิ่มปุ่มเฉพาะสำหรับการสแกนโค้ดเหล่านี้ใน iOS และ iPadOS

แม้ว่า QR Code จะได้รับความนิยมในตะวันตก แต่พวกเขาก็ถูกใช้ในเอเชียมาเป็นเวลานานกว่า ในขณะที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปใช้พวกเขาในการเข้าถึงเว็บไซต์ ประเทศในเอเชียใช้พวกเขาในการเก็บข้อมูลผู้บริโภคและบำรุงรักษาอุปกรณ์อุตสาหกรรม

วันนี้ การใช้ QR Code เพื่อจุดประสงค์เหล่านี้กำลังเติบโตในตะวันตก ในขณะที่ในเอเชีย พวกเราจะใช้พวกเขาในการชำระเงินในการ ช้อปปิ้ง เชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมและ แสดงประสบการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงเสริมจากการสแกน QR Code

จาก QR Code สู่ AR Code

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนา QR Code มีการติดตามการพัฒนาเทคโนโลยีข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพราะมันเป็นระบบการจดจำทางสายตาที่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลหรือไม่ก็ได้ ความสามารถยืดหยุ่นของมันทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ดิจิทัลใหม่ ๆ ได้ง่าย

QR Code ย่อมาจาก Quick Response Code ซึ่งเป็นชื่อเดิมของมันในอ้างอิงถึงวัตถุประสงค์ทางอุตสาหกรรมของเทคโนโลยี ปัจจุบัน มีระบบโค้ดหลายระบบที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำทางสายตาอย่างรวดเร็วนี้ รวมถึง bcode, BEEtag, Aztec Code, Data Matrix, EZcode และล่าสุด Snapcode โดย Snapchat และ App Clips Code โดย Apple

ในยุคของเว็บ 1.0 QR Code อ้างถึงหน้าเว็บแบบง่าย ๆ ในยุคของเครือข่ายสังคมออนไลน์และอีคอมเมิรซ์ พวกเขาเปิดใช้งานการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการชำระเงิน ในอนาคตที่มีการเสริมความจริง QR Code จะให้สิทธิ์เข้าถึงประสบการณ์เสริมความจริง

AR Code คือ QR Code ที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์เสริมความจริง

มีข่าวลือว่า Apple กำลังพัฒนา QR Code เสริมความจริงที่ออกแบบใหม่เรียกว่า "Apple Vision Code" ซึ่งมีรายงานว่าจะรวมเข้ากับชุดหูฟัง "Apple Vision" ที่กำลังจะมาถึงของบริษัท จนถึงตอนนี้มีการเปิดเผยเพียงประสบการณ์เดียวเท่านั้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันย่อยที่เรียกว่า "App Clips" ผ่าน "App Clips Codes"

ความเป็นจริงเสริมคืออะไร?

ความเป็นจริงเสริมผสมผสานกระบวนการทางสายตาและการคำนวณเชิงพื้นที่เพื่อนำเสนอองค์ประกอบเสมือนในมุมมองของผู้ใช้ โดยส่วนใหญ่ใช้เสียงเพิ่มการเสริม

ในการทำความเข้าใจความเป็นจริงเสริม จะเป็นประโยชน์ถ้าคุณคุ้นเคยกับสี่แนวคิดหลัก:

• อุปกรณ์ AR: มีอุปกรณ์ที่รองรับ AR มากมาย โดยปัจจุบันมีสมาร์ทโฟน AR ประมาณ 2 พันล้านเครื่อง สำหรับแว่นตาเสริมความจริงคาดว่าจะมาถึงตลาดมวลชนเร็ว ๆ นี้ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เช่น Apple, Google, Microsoft, Samsung และ Huawei สนับสนุนการพัฒนาความเป็นจริงเสริม Apple ได้ทำความก้าวหน้าอย่างมากกับ ARKit และ Facebook วางแผนที่จะพัฒนาอุปกรณ์ AR และ metaverse เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระบบ VR/AR ที่ครอบคลุมของพวกเขา

• เนื้อหา AR: ผู้คนนับล้านใช้ AR ในการเล่นเกมและฟิลเตอร์ภาพ/วีดีโอในชีวิตประจำวัน แต่เนื้อหา AR กำลังขยายออกไปในอนาคต อินเตอร์เฟซสำหรับคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และโรงละครอาจถูกแสดงใน AR และการบันทึกสามมิติของเหตุการณ์จะเปิดโอกาสให้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมแบบใหม่ Microsoft Hololens 2 ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AR ในการตั้งค่าทางสังคมแล้ว

• การเรนเดอร์ AR: ยักษ์ใหญ่ดิจิทัลได้แข่งขันกันเพื่อครองเทคโนโลยี AR ระบบ AR ส่วนใหญ่รวมเข้ากับระบบปฏิบัติการกรรมสิทธิ์ ยกเว้น WebAR ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์ส AR.js เป็นแบบสากลและทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ ในขณะที่เทคโนโลยีการเรนเดอร์ขั้นสูงมีอยู่ในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับไฮเอนด์ ARKit ของ Apple และ ARCore ของ Google ถูกติดตั้งในอุปกรณ์เกือบพันล้านเครื่องต่อเครื่อง

• การยึดจุดเริ่มต้น AR: การค้นหาประสบการณ์ AR ต้องการวิธีการยึดจุดเริ่มต้นหลายรูปแบบ:

  • การยึดจุดเริ่มต้นสิ่งแวดล้อมโดยตรง: แสดงประสบการณ์ AR ต่อหน้าผู้ใช้ เช่น เกม AR
  • การยึดจุดเริ่มต้นโดยอิงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์: เปิดใช้งานเนื้อหา AR ในตำแหน่งเฉพาะในเมือง
  • การยึดจุดเริ่มต้นการรู้จำวัตถุ: รู้จำวัตถุ อาคาร สถานที่ หรือใบหน้าเพื่อแสดง AR โดยมักใช้เทคโนโลยี WebAR
  • การยึดจุดเริ่มต้นโดยใช้แบนด์กว้างพิเศษ: AirTag ของ Apple ใช้เพื่อการแสดง AR ในอนาคต
  • การยึดจุดเริ่มต้น AR ด้วยรหัส QR: QR Code ที่เปลี่ยนเป็น AR Code ทำหน้าที่เป็นจุดยึดประสบการณ์บนผลิตภัณฑ์ การ์ดสมาชิก หน้าร้าน สถานที่ท่องเที่ยว และอื่น ๆ

เทคโนโลยี AR Code ขึ้นอยู่กับการยึดจุดเริ่มต้น AR, เนื้อหา AR และการเรนเดอร์ AR การสแกนโค้ดด้วยอุปกรณ์ AR จะนำผู้ใช้ไปสู่เนื้อหาและการเรนเดอร์ที่เหมาะสม ซึ่งโฮสต์อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ AR Cloud หรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สามเช่น โซเชียลมีเดีย

ดึงดูดผู้ชมของคุณด้วย AR Code

AR Code เสนอวิธีใหม่ ๆ ในการดึงดูดผู้ชมของคุณโดยผสมผสานโลกดิจิทัลและฟิสิคอลเข้าด้วยกัน ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่คมชัดและน่าประทับใจซึ่งจับความสนใจและให้ข้อมูลที่มีค่า ลองจินตนาการว่าลูกค้าสแกน AR Code บนบรรจุภัณฑ์สินค้าเพื่อดูโมเดล 3 มิติของสินค้า ดูวิดีโอสอน หรือแม้กระทั่งลองเดโมเสมือนจริง วิธีการโต้ตอบแบบนี้ไม่เพียงเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ แต่ยังให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สามารถนำไปสู่การแปลงเป็นยอดขายที่สูงขึ้น การใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น การอัปโหลดไฟล์ 3 มิติ, การจับภาพวัตถุ, ฟิลเตอร์หน้า AR และ วิดีโอ AR ธุรกิจสามารถสร้างเนื้อหา AR ที่หลากหลายที่ตรงกับความสนใจของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AR Code SaaS, การเรนเดอร์ AR 4 แบบต่าง ๆ

การเสริมความจริงแบบเสมือนจริง: แสดงประสบการณ์ AR ในสภาพแวดล้อมของคุณ รวมถึงวัตถุ 3 มิติ, แอนิเมชัน และการแช่ VR

ฟิลเตอร์หน้า AR: แสดงฟิลเตอร์หน้า AR ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม AR Code ด้วยภาพหรือล็อกโก้ของคุณ

การบินข้าม AR: แสดงวิดีโอ, โมเดล 3 มิติ, หรือข้อมูลบินข้าม QR Code ด้วย AR; ข้อความสามารถแก้ไขได้จากระยะไกลผ่านเว็บอินเทอร์เฟซหรือ API ของเรา

AI Assistance AR: AI Code; กระตุ้นผู้ใช้ให้ถ่ายรูป ซึ่งถูกวิเคราะห์โดย AI เพื่อให้คำตอบหรือคำแนะนำที่เป็นส่วนตัว